วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2560

ทฤษฎีการพลิกผัน (The theory of disruption)


ทฤษฎีการพลิกผัน หรือ The theory of disruption หากเราทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ ก็จะทำให้นักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ ผู้วางนโยบาย ผู้นำ และผู้บริหารในทุกภาคส่วน มีมุมมองใหม่ (New perspective) ซึ่งนวัตกรรมที่จะทำให้เกิดการผลิกผัน (Disruptive innovation) ถือว่ามีรูปแบบที่มีพลวัตร (Dynamic) สูงมาก ที่จะทำให้อุตสาหกรรมเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด เพราะสามารถไปปลดล็อคการเติบโตทางเศรษฐกิจและสวัสดิการสังคมได้

Disruption จะทำให้เกิดพลังที่เรียกว่า “การทำลายอย่างสร้างสรรค์ (Creative destruction)” ทำให้เกิดการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการจัดสรรทรัพยากรรูปแบบใหม่ ทำลายรูปแบบดั้งเดิมที่ไร้ประสิทธิภาพ โดยจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการผลิต อีกทั้งทำให้ราคาลดต่ำลงอย่างมาก จนเกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม

วิธีใช้ Google Keep แปลงข้อความในรูปภาพ ให้เป็น text ตัวพิมพ์

Google Keep แอปและเว็บไซต์จดบันทึกฟรีจาก Google ที่นอกจากบันทีกด้วยข้อความ รูปภาพ อัดเสียงแล้ว ยังมีความสามารถอื่นๆที่นึกไม่ถึงว่า Google Keep จะทำได้ หนึ่งในนั้นคือ แปลงข้อความที่ปรากฎในรูปภาพเป็น Text ตัวพิมพ์ได้ด้วย ทำได้อย่างไรลองดูกัน

เริ่มจากเข้าเว็บไซต์ Keep.google.com หรือเข้าแอป Google Keep บนมือถือ iOS และ Android จากนั้นเลือกบันทึกที่มีรูปภาพ ซึ่งรูปภาพนั้นต้องมีข้อความด้วย

ในมือถือให้แตะที่ตัวรูปภาพ (ที่รูปภาพนั้นต้องมีข้อความด้วย) จากนั้นแตะไอคอน 3 จุดบริเวณมุมขวาบน แล้วเลือกที่ Grab Image Text
สำหรับกรณีเว็บไซต์ Google Keep และเป็นภาษาไทยด้วยนั้น คลิกที่รูปภาพที่มีข้อความ(ที่รูปภาพนั้นต้องมีข้อความด้วย) >> จากนั้นเลือก ไอคอน 3 จุดด้านล่าง >> แล้วเลือกที่ จับข้อความจากรูปภาพ 
ผลที่ได้คือ Google Keep จะหาข้อความในรูปภาพ แล้วแสดงเป็นข้อความในลักษณะ Text ตัวพิมพ์ อยู่ด้านล่างแบบนี้ (ตามกรอบสีเขียวที่ชี้อยู่ในรูป ) ซึ่งฟีเจอร์นี้ Google Keep อ่านออกแค่ภาษาอังกฤษกับตัวเลขเท่านั้น (ยังไม่รองรับตัวอักษรภาษาไทย) และความแม่นยำนั้นอยู่ประมาณ 70-80%
ใครที่ใช้ Google Keep ในการจดบันทึก และภาพมีตัวอักษรภาษาอังกฤษอยู่ ลองใช้ฟีเจอร์ Grab Image Text นี้กันได้

Leadership Trends 2017 “ถึงเวลาของคนรุ่นใหม่”

เนื่องจากในปี 2017 เป็นปีที่มีการเปลี่ยนผ่านสู่มิติใหม่ที่สำคัญ 2 ประการคือ

(1) การเกิดการหลอมรวมของเทคโนโลยีดิจิทัลและอินเทอร์เน็ต (Technology convergence) ที่ทรงประสิทธิภาพ ที่ทำให้เกิดการพลิกผันทางเทคโนโลยี (Technology disruption) 
(2) คนหนุ่มสาวยุค Millennial หรือ Generation Y และ Z ที่มีความคิดและวิธีการทำงานแบบใหม่ที่แตกต่างจาก Generation X เริ่มก้าวเข้ามามีบทบาทในองค์กร จึงทำให้การบริหารจัดการในทุกมิติต้องเปลี่ยนไป

ประการแรก ประเด็นการหลอมรวมของเทคโนโลยีดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตที่ทรงประสิทธิภาพ ซึ่งกำลังเข้ามาไล่ล่าผู้นำไม่ว่าจะเป็นการ shift ความเร็วของการรับส่งข้อมูลบน mobile จาก Mbps ไปสู่ Gbps, ความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence; AI) ที่นำมาประยุกต์ใช้ในระบบ Social media, Search engine และ Data Analytics จนมีความฉลาดอย่างมาก ไปจนถึงเทคโนโลยีเข้ารหัส Cryptography อย่างเช่น Blockchain เป็นต้น จนทำให้ผู้บริโภคมีพลังอำนาจสูงขึ้น พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างถอนรากถอนโคน

ประการที่สอง ประเด็นการเติบโตของคนรุ่นใหม่ยุค Millennial (Gen Y ) และ Gen Z ที่มีความคิดแบบใหม่ที่แตกต่างจาก Gen X กำลังเริ่มก้าวเข้ามามีอิทธิพลอย่างมากต่อองค์กรในปี 2017 อย่างชัดเจน รวมทั้งมีอิทธิพลในการร่วมเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ดิจิทัล (Digital transformation) และมีกำลังซื้อมหาศาล จึงทำให้การบริหารจัดการในองค์กรและการวางแผนด้านการตลาดต้องถูกเปลี่ยนไป เพราะการวางรากฐานขององค์กรที่มีอยู่เดิมเป็นการวางไว้โดย Baby boomers และ Gen X ซึ่งมีวิธีคิดที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง


Thailand 4.0 ประเทศไทย 4.0 คืออะไร

หลายท่านคงได้ยินกันบ่อยๆกับคำว่า Thailand 4.0 แล้ว Thailand 4.0 คืออะไร นโยบายนี้จะช่วยพัฒนาประเทศของเราได้อย่างไร มาทำความรู้จักกัน

Thailand 4.0  เป็นวิสัยทัศน์เชิงนโยบาย ที่เปลี่ยนเศรษฐกิจแบบเดิมไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ….ซึ่งกว่าจะมาเป็น Thailand 4.0 ก็ต้องผ่าน 1.0 2.0 และ 3.0 กันมาก่อน
·         Thailand 1.0 ก็คือยุคของเกษตรกรรม คนไทยปลูกข้าว พืชสวน พืชไร่ เลี้ยงหมู เป็ด ไก่ นำผลผลิตไปขาย สร้างรายได้และยังชีพ
·         Thailand 2.0 ซึ่งก็คือยุคอุตสาหกรรมเบา ในยุคนี้เรามีเครื่องมือเข้ามาช่วย เราผลิตเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องดื่ม เครื่องเขียน เครื่องประดับเป็นต้น ประเทศเริ่มมีศักยภาพมากขึ้น
·         Thailand 3.0 (ซึ่งเป็นยุคปัจจุบัน ) เป็นยุคอุตสาหกรรมหนัก เราผลิตและขายส่งออกเหล็กกล้า รถยนต์ ก๊าซธรรมชาติ ปูนซีเมน เป็นต้น โดยใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศ เพื่อเน้นการส่งออก

ในช่วงแรก Thailand 3.0 เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันกลับเติบโตเพียงแค่ 3-4% ต่อปีเท่านั้น ประเทศไทยจึงตกอยู่ช่วงรายได้ปานกลางมาเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ในขณะที่ทั่วโลกมีการแข่งขันที่สูงขึ้น เราจึงต้องเปลี่ยนสู่ยุค Thailand 4.0 เพื่อให้ประเทศไทยให้กลายเป็นกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง

การประยุกต์ใช้งานของเทคโนโลยีไร้สาย

โทรศัพท์เคลื่อนที่
หนึ่งในตัวอย่างที่รู้จักดีที่สุดของเทคโนโลยีไร้สายก็คือโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือที่เรียกว่าโทรศัพท์มือถือ ที่มีมากกว่า 4.6 พันล้านผู้เช่าทั่วโลก ณ สิ้นปี 2010. โทรศัพท์ไร้สายเหล่านี้ใช้คลื่นวิทยุเพื่อช่วยให้ผู้ใช้โทรศัพท์โทรฯเข้าออกจากหลาย ๆ สถานที่ทั่วประเทศ ที่สัญญาณส่งไปถึง
การสื่อสารข้อมูลแบบไร้สาย
การสื่อสารข้อมูลไร้สายเป็นองค์ประกอบสำคัญของการประมวลเคลื่อนที่. เทคโนโลยีที่สามารถใช้ได้มีความหลากหลายแตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่น, ระยะครอบคลุมและประสิทธิภาพ ในบางสถานการณ์ที่หลายๆผู้ใช้จะต้องสามารถที่จะเชื่อมต่อได้หลายประเภทและหลายเครือข่าย. เพื่อทำให้ง่ายขึ้น ซอฟแวร์จัดการการเชื่อมต่อจะต้องถูกนำมาใช้ หรือ VPN เคลื่อนที่ เพื่อรับมือกับการเชื่อมต่อหลายประเภท เหมือนกับเป็นเครือข่ายเสมือนเดี่ยวที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างดี เทคโนโลยีที่สนับสนุนได้แก่: