ทฤษฎีการพลิกผัน หรือ The
theory of disruption หากเราทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ ก็จะทำให้นักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ
ผู้วางนโยบาย ผู้นำ และผู้บริหารในทุกภาคส่วน มีมุมมองใหม่ (New
perspective) ซึ่งนวัตกรรมที่จะทำให้เกิดการผลิกผัน (Disruptive
innovation) ถือว่ามีรูปแบบที่มีพลวัตร (Dynamic) สูงมาก ที่จะทำให้อุตสาหกรรมเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด
เพราะสามารถไปปลดล็อคการเติบโตทางเศรษฐกิจและสวัสดิการสังคมได้
Disruption จะทำให้เกิดพลังที่เรียกว่า “การทำลายอย่างสร้างสรรค์ (Creative
destruction)” ทำให้เกิดการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ด้วยการจัดสรรทรัพยากรรูปแบบใหม่ ทำลายรูปแบบดั้งเดิมที่ไร้ประสิทธิภาพ
โดยจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการผลิต
อีกทั้งทำให้ราคาลดต่ำลงอย่างมาก จนเกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม







